พริกที่เผ็ดที่สุดในโลกนั้นคือพริก “ฮาบาเนโร” เป็นพริกที่มีถิ่นกำเนิดในแถบภูมิภาคเมโสอเมริกา ซึ่งอยู่บริเวณคาบสมุทรยูคาตันในทวีปอเมริกากลางที่ยื่นเข้าไปในอ่าวเม็กซิโก ถูกค้นพบโดยชาวยุโรปและกระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โดยพริกฮาบาเนโรที่มีเครื่องหมายการค้าจากเร้ด ซาบีนาได้รับการรับรองว่าเป็นพริกที่เผ็ดที่สุดในโลกและได้รับการบันทึกลงในกินเนสต์บุ๊คด้วย
พริกฮาบาเนโรนั้นมีขนาดประมาณ 2-6 เซนติเมตรตามความยาว มีลักษณะเหมือนผลไม้ และมีรสเปรี้ยวเหมือนส้ม เมื่อยังดิบจะมีสีเขียว พอสุกได้ที่จะมีสีที่หลากหลายซึ่งโดยทั่วไปก็จะเป็นสีส้มและสีแดงเหมือนพริกขี้หนูหรือพริกชี้ฟ้าบ้านเรานี่เอง ทั้งนี้ยังพบฮาบาเนโรที่สุกแล้วเป็นสีน้ำตาล สีขาว และสีชมพูได้อีกด้วย
และด้วยความเผ็ดร้อน บวกกับรสชาติเปรี้ยวนิดๆ และกลิ่นหอมของฮาบาเนโร จึงมีคนนิยมนำพริกชนิดนี้ไปเป็นส่วนประกอบของอาหารที่ต้องการความเผ็ด โดยเฉพาะซอสพริก เช่นบริษัทที่ผลิตซอสพริกทาบาสโกซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกก็นำฮาบาเนโรมาทำซอสพริกเวอร์ชั่นใหม่ที่ร้อนแรงกว่าทาบาสโกตามปกติด้วย
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยในเทกซัสก็ได้คิดค้นพริกฮาบาเนโรที่มีความเผ็ดร้อนน้อยลงซึ่งยังคงกลิ่นและรสตามแบบเดิมของพริกชนิดนี้ไว้ได้ โดยการผสมพันธุ์พริกฮาบาเนโรสายพันธุ์ยูคาตันกับสายพันธุ์ที่ปราศจากความเผ็ดของโบลิเวีย จนได้พริกฮาบาเนโรที่มีรสชาติละมุนกว่าเดิมซึ่งพวกเขาคาดว่าจะวางขายอย่างกว้างขวางได้ในอนาคต ซึ่งในปัจจุบันประเทศที่เป็นผู้ผลิตฮาบาเนโรที่สำคัญนั้นได้แก่ เบลีซ คอสตาริกา และรัฐบางรัฐของสหรัฐอเมริกา เช่น เทกซัส ไอดาโฮ และแคลิฟอร์เนีย
ทั้งนี้ ในทศวรรษที่ 18 ผู้เชี่ยวชาญด้านการแบ่งประเภทสิ่งมีชีวิตเข้าใจผิดว่า จีนเป็นประเทศต้นกำเนิดของฮาบาเนโร จึงเรียกพริกชนิดนี้ว่า ไชนีส เปปเปอร์ ชื่อนี้จึงกลายมาเป็นชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งของพริกฮาบาเนโรไปโดยปริยาย
พริกฮาบาเนโรนั้นมีขนาดประมาณ 2-6 เซนติเมตรตามความยาว มีลักษณะเหมือนผลไม้ และมีรสเปรี้ยวเหมือนส้ม เมื่อยังดิบจะมีสีเขียว พอสุกได้ที่จะมีสีที่หลากหลายซึ่งโดยทั่วไปก็จะเป็นสีส้มและสีแดงเหมือนพริกขี้หนูหรือพริกชี้ฟ้าบ้านเรานี่เอง ทั้งนี้ยังพบฮาบาเนโรที่สุกแล้วเป็นสีน้ำตาล สีขาว และสีชมพูได้อีกด้วย
และด้วยความเผ็ดร้อน บวกกับรสชาติเปรี้ยวนิดๆ และกลิ่นหอมของฮาบาเนโร จึงมีคนนิยมนำพริกชนิดนี้ไปเป็นส่วนประกอบของอาหารที่ต้องการความเผ็ด โดยเฉพาะซอสพริก เช่นบริษัทที่ผลิตซอสพริกทาบาสโกซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกก็นำฮาบาเนโรมาทำซอสพริกเวอร์ชั่นใหม่ที่ร้อนแรงกว่าทาบาสโกตามปกติด้วย
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยในเทกซัสก็ได้คิดค้นพริกฮาบาเนโรที่มีความเผ็ดร้อนน้อยลงซึ่งยังคงกลิ่นและรสตามแบบเดิมของพริกชนิดนี้ไว้ได้ โดยการผสมพันธุ์พริกฮาบาเนโรสายพันธุ์ยูคาตันกับสายพันธุ์ที่ปราศจากความเผ็ดของโบลิเวีย จนได้พริกฮาบาเนโรที่มีรสชาติละมุนกว่าเดิมซึ่งพวกเขาคาดว่าจะวางขายอย่างกว้างขวางได้ในอนาคต ซึ่งในปัจจุบันประเทศที่เป็นผู้ผลิตฮาบาเนโรที่สำคัญนั้นได้แก่ เบลีซ คอสตาริกา และรัฐบางรัฐของสหรัฐอเมริกา เช่น เทกซัส ไอดาโฮ และแคลิฟอร์เนีย
ทั้งนี้ ในทศวรรษที่ 18 ผู้เชี่ยวชาญด้านการแบ่งประเภทสิ่งมีชีวิตเข้าใจผิดว่า จีนเป็นประเทศต้นกำเนิดของฮาบาเนโร จึงเรียกพริกชนิดนี้ว่า ไชนีส เปปเปอร์ ชื่อนี้จึงกลายมาเป็นชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งของพริกฮาบาเนโรไปโดยปริยาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น