ดอกไม้หน้าตาคล้ายแมว
น่าจะเป็นดอกที่เรียกว่า Pansy
ซึ่งมีหลายพันธ์ ป้าจะลองหามาให้ชมดู
เผื่อนำไปจัดกันเล่นๆ
ปลูกใส่กระถางแล้วใส่ตระกร้า ก็น่าจะได้
pansy ชื่อแสนน่ารัก
คนไทยให้ชื่อว่าดอกหน้าแมว
ดอกไม้ต้นเล็กสูงพ้นพื้นดินไม่ถึง5นิ้ว
เป็นดอกไม้ที่ทนร้อนทนหนาว
ทน แม้กระทั่งละอองหิมะเย็นเยือก
ที่ตกลงมาปกคลุมไม้อื่น จนต้องทิ้งดอกสลัดใบ
มีแต่ pansy ดอกน้อยๆนี้เท่านั้นที่ยืนหยัดท้าสู้
ภาษาดั้งเดิม "pansy" มาจาก "pensee"อันเป็นภาษาฝรั่งเศส
แปลว่า "thought, remembrance" ความนึกคิด ความทรงจำ
ฝรั่งเขาบอกว่า รูปดอกเล็กๆเมื่อถูกลมพัดจะส่ายไปมา
คล้ายใบหน้าคนที่ส่ายศรีษะไปซ้ายที ขวาที ทำนองครุ่นคิด อะไรสักอย่าง
แต่ละคนต่างคิดต่างตั้งชื่อตามที่เห็น
ความที่ pansy มีลักษณะเหมือนดอกไม้ที่คล้ายจะคิดเป็น
ฝรั่งเขาเลยนำไปเป็นสัญญลักษณ์ของ Freethought คือความคิดเสรี
ลักษณะของพวกความคิดเสรี คือ มีความเชื่อตั้งอยู่บนฐาน
ของข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ และตรรกวิทยา
ถ้าเรื่องไหนพิสูจน์ไม่ได้ ไม่มีเหตุผล พวก Freethought จะไม่เชื่อเด็ดขาด
อาจเป็นเพราะสมัยก่อนความเชื่อที่ครอบคลุมความคิด
ทุกรูปแบบของชาวตะวันตกมาจากศาสนจักร
พอถึงยุคหนึ่งผู้คนเริ่มเป็นกบฎต่อความคิดที่ไม่มีเหตุผล
จึงรวมกลุ่มกลายเป็นพวก Freethought
และถือว่าทุก วันที่12 ตุลาคม คือ Freethought Day
ดอกpansyมีเผ่าพันธุ์สืบทอดสายเดียวมากับดอกviola
ดอกไม้ดั้งเดิมในศตวรรษที่4สมัยกรีกโบราณว่า
ไม้ดอกชนิดนี้เป็นสมุนไพร
ต่อมาเมื่อviolaกระจายพันธุ์ไปทั่วยุโรปในเวลาต่อมา
ตามหลักฐานที่ปรากฏในหนังสือของ Pansy ในปี1899
ระบุว่ากำเเนิดจากการผสมพันธุ์ของviola ที่เมือง Iver,
Buckinghamshire ประเทศอังกฤษสมัยต้นปี 1800
จากคนสวนของ Lord Gambier ชื่อ William Thompson
เขาได้ทดลองผสมข้ามพันธุ์ Viola หลาย species
หลักฐานในหนังสือระบุว่า สายพันธุ์ V. tricolor, V. Lutea
และไม้ดอกสีน้ำเงินจากรัสเซีย V. altacia.ผสมออกมาได้ไม้มี3สีคละกัน
เรียกว่า V. tricolor
ประวัติศาสตร์จึงยกย่องว่า คนสวนนาม William Thompson
เป็นผู้ค้นพบ V. x Wittrockiana
ในปี 1839 ให้ชื่อว่า "Medora," ถือเป็นดอก pansy แรกของโลก
ความนิยมในดอกpansyยังคงสืบต่อมาเรื่อยไม่เว้น
แม้แต่การ์ดของ Hallmark ที่ข่าวระบุว่า
ไม่ว่า e-mailจะทันสมัยแค่ไหน
แต่การ์ดที่ออกแบบมามีอายุ หกสิบกว่าปี (ตั้งแต่ปี 1939) **
รูปดอก pansy รูปนี้ ยังคงขายดิบขายดี
พิมพ์สืบต่อมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่2
เป็นการ์ดที่ขายดีที่สุดไม่มีวันตกจากความนิยม
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะไม่ว่ากี่ปีต่อกี่ปีเท่าที่จำความได้
ไปดูการ์ดที่ร้าน Hallmark คราใด ต้องได้เจอการ์ดรูปนี้อยู่ที่ร้านเสมอ
(** In 1939, Hallmark created the Pansy card
which was one of the most popular Hallmark cards ever introduced.
ปกติเป็นไม้ดอกที่ต้องการแสงแดดจัด
แต่ในประเทศไทยมีอากาศค่อนข้างร้อน
แม้ในฤดูหนาว อากาศก็ไม่เย็นพอ
ดังนั้นการปลูกแพนซีให้มีดอกสวยงามควรปลูกใต้เงาไม้
หรือร่มเงาโขดหิน หรือให้ได้รับแสงแดดรำไร
หรือแสงแดดในช่วงเช้า
แพนซีมีรูปร่างและสีสันของดอก ตลอดจนลวดลายภายในดอก
แปลกไปจากไม้ดอกอื่นๆ แต่ละดอกประกอบด้วยหลายสี
ถ้าปลูกคละสีในแปลงเดียวกันจะมองเห็นเหมือนหน้าแมว
ที่ชูหน้าสลอนรับแสงแดดยามเช้า เป็นไม้ดอกที่มีพุ่มต้นเตี้ย
แต่ก้านดอกจะส่งดอกโผล่พ้นต้นขึ้นมา
และหันหน้ารับแสงอาทิตย์เกือบทุกดอก
เมล็ดลูกผสมชั่วแรก (F1 hybrid) มีราคาค่อนข้างแพง
แต่ดอกมีขนาดใหญ่ และดอกดก
หรืออาจจะเลือกปลูกเมล็ดผสมชั่วที่ ๒ (F2 hybrid) แทนก็ได้
ซึ่งเมล็ดมีราคาย่อมเยากว่า แต่ดอกสวยพอๆ กัน"
คำบรรยายด้านในการ์ด :-
Pansies always stand for thoughts
– at least that’s what folks say.
So this just comes to show
my thoughts are there with you today.
คำบรรยายบนปกการ์ด :-
To let you know I’m thinking of you.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น